หลักการและเหตุผล เรื่อง "ขนมไทย"

 เนื่องจากขนมไทยเป็นของที่มีมาตั้งแต่สมัยโบรณา มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยตคือ  

ทำให้คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันไม่รู้ความเป็นมาของขนมไทย ไม่รู้ว่าในประเทศเราก็มีดีในเรื่องของ ขนมไทยอยู่เหมือนกันเพราะขนมไทยนั้นมีความหลากหลายทั้งวิธีการทำและรสชาติที่แตกต่างจากขนมสมัยใหม่ เพราะนอกจากอร่อยแล้วขนมไทยยังมีสีสันที่สวยงาม และยังมีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิธีพิถัน จึงทำให้คนส่วนใหญ่มองข้ามไป จึงเป็นแนวคิดที่อยากทำเรื่องขนมไทย ให้ผู้อื่นสามารถรับรู้ความเป็นมาที่แท้จริงวิธีการทำ วัตถุดิบต่างๆที่ใช้ ไม่ใช่แค่การเลือกซื้อแต่เป็นการรักษาขนมที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยไว้ เพื่อเป็นประโยชน์

ในการประกอบอาชีพได้ หรือการหารายได้อีกทาง ซึ่งประโยชน์เหล่านี้ก็สามารถนำไปใช้ได้จริงและเป็นประโยชน์ให้ผู้อื่นได้

รูปแบบและวัตถุดิบสูตตรโบราณ

คำว่า “ขนม” เข้าใจว่ามาจากคำสองคำที่มาผสมกันคือ “ข้าวหนม” และ “ข้าวนม” เข้าใจว่าเป็นข้าวผสมน้ำอ้อย น้ำตาล โดยอนุโลมคำว่าหนม แปลว่า หวาน

แหล่งห้นคว้าความรู้เพิ่มเติมที่เป็นประโชยน์

       หนังสื่อเล่มนี้ทำให้ได้รู้จักวิธีการทำขั้นตอนอาจจะดูยุ่งยากไปบ้าง แต่ในการทำขนมไทยให้อร่อยนั้นเราอาจจะต้องใช้สูตรขนมไทยที่แท้ เป็นสูตรขนมไทยที่โบราณถึงจะดีที่สุด นอกจากเราจะได้รู้จักวิธีการทำสูตรขนมไทยต่างๆในเล่มนี้แล้ว เขายังบอกถึงส่วนผสมที่นำมาทำ และส่วนมากจะเป็นผลไม้ พืชผล จากธรรมชาติล้วนๆ ส่วนผสมของสีก็อาจจะมีกลิ่นสีที่เข้ามาเติมแต่ง สีสังเคราะห์วิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยให้ขนมอาจจะดูน่ากินขึ้น หรือสีจากธรรมชาติ เช่น ใบเตย ให้สีเขียว กลิ่นหอมของใบเตย สีม่วงของอัญชัน ได้สีม่วง นอกจากนั้นการทำขนม ก็มั่กอาจจะมีเครื่องไม้เครื่องมือเข้ามาช่วยในการทำบ้าง หรือเครื่องที่ทำขึ้นมาเอง เช่น พิมพ์ของขนม ที่เราก็สามารถหามาทำได้เอง ซึ่งหาได้ไม่ยาก ส่วนมากหนังสือเล่มนี้จะให้ประโยชน์ในการฝึกหัด การทำขนมไทยซะส่วนมาก และเป็นการที่เราสามารถเอาไปประกอบอาชีพได้จริง เพราะหนังสือเล่มนี้จะบอกถึงประเภทของขนมไทยที่น่าสนใจจะมี ขนมไทยทำขาย ขนมตามเทศกาลขาย ขนมไทยประยุกต์ ขนมหวานขายดี ทำให้สามารถอาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นประโยชน์ของคนที่สนใจและอยากจะทำขายจริง

        เล่มนี้จะบอกถึงความรู้ที่เกี่ยวกับขนมไทยและวิธีการทำที่สำคัญไปกว่านั้นคือการจัดแต่ง ส่วนลึกของหนังสือจะบอกถึงการอนุรักษ์ขนมไทย นอกจากนั้นยังบอกถึงขนมที่คนไทยและชาวต่างชาติให้ความนิยม และบอกถึงขนมตามประเพณีและเทศกาล ในงานมงคล เช่น การทำบุญเลี้ยงพระ การแต่งงาน งานบวช และยังมีขนมในโอกาสทั่วไป หนังสือเล่มนี้สอดแทรกเข้าไปที่เกี่ยวกับเรื่องของวัฒนธรรม และประเพณีขนมไทยที่สืบต่อมาเป็นเวลานาน ทำให้เรารู้จักการอนุรักษ์และอยากจะหันมาสนใจขนมไทยในบ้านเรามากขึ้น

        หนังสือเล่มนี้จะมีทั้งอาหารหวานและคาวเล่มนี้ทำให้รู้สูตรทั้งอาหารหวานและคาว ที่สำคัญหนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกสูตรของอาหารเพียงอย่างเดียวแต่บอกถึงชื่อและที่มาของขนมไทย ใคร
หลายๆคนอาจจะอ่านผ่านๆตาไป เพราะชื่อขนมไทยแต่ละชื่อมันมีที่มาที่ไป ชื่อขนมจะมีที่มาสอดคล้องกับตัวขนม เช่น ชั้น ความหมายคือ การได้เลื่อนขั้นเลื่อนต่ำแหน่งชั้น นอกจากนี้ก็ยังทำให้รู้ถึงขนมของดีแต่ละภาคเพราะขนมไทยก็มีความเป็นมาที่เกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรมของไทยเราอยู่แล้ว เช่น ภาคเหนือ ขนมงาต่ำอ้อยแต่อาจมีอีกหลายๆคนยังไม่รู้ว่าขนมชนิดนี้จริงๆมาจากไหนและแต่ละอันก็เป็นขนมที่หายาก ที่จะหาซื้อกินในปัจจุบัน และทำให้รู้ประโยชน์และความเป็นมาที่แท้จริงของขนมไทยในอดีตและปัจจุบัน

คำว่า "มงคล" หมายถึงสิ่งที่นำมาซึ่งความดีงามและความเจริญรุ่งเรือง

ขนมไทยกับความหมายมงคล

ฝอยทอง  เป็น ขนม ใน ตระกูลทอง ที่มีลักษณะเป็น เส้น  ใช้กันในง านมงคลสมรส ถือเคล็ด กันว่าห้ามตัดขนม ให้สั้นต้องปล่อยให้เป็น เส้นยาวๆ เพื่อที่ คู่บ่าวสาว จะได้ ครองชีวิตคู่ และ รัก กันได้อย่างยืนยาวตลอดไป

ขนมชั้น

เป็น ขนมมงคล และจะต้อง หยอด ขนมชั้น ให้ได้ 9 ชั้น เพราะ คนไทย มีความเชื่อ

ว่าเลข 9 เป็น เลขสิริมงคล หมายถึง ความเจริญก้าวหน้า และ ขนมชั้น ก็หมายถึงการได้

เลื่อนชั้น เลื่อน ยศถาบรรดาศักดิ์ ให้สูงส่งยิ่งๆ ขึ้นไป

                           

จ่ามุงกฏ

 เป็น ขนม ที่ทำยากมี ขั้นตอนใน การทำ สลับซับซ้อน นิยมทำกันเพื่อ

ใช้ประกอบ พิธีการ ที่สำคัญจริงๆ คำว่า "จ่ามงกุฎ" หมายถึง การเป็น หัวหน้าสูงสุดแสดงถึงความมี เกียรติยศสูงส่ง นิยมใช้เป็น ของขวัญ ใน งานเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งถือเป็น การแสดงความยินดี และ อวยพร ให้มีความก้าวหน้า ในหน้าที่การ งาน ยิ่งๆ ขึ้นไป

ขนมไทยของดีสี่ภาค(4)

ขนมตาล

ภาคกลาง

ส่วนใหญ่ทำมาจากข้าวเจ้า เช่น ข้าวตัง นางเล็ด ข้าวเหนียวมูล และมีขนมที่หลุดลอดมาจากรั้ววัง จนแพร่หลายสู่สามัญชนทั่วไป เช่น ลูกชุบ หม้อข้าวหม้อแกง ฝอยทอง ทองหยิบ

วุ้นกระทิ

ภาคเหนือ

      ส่วนใหญ่จะทำจากข้าวเหนียว และส่วนใหญ่จะใช้วิธีการต้ม เช่น ขนมเทียน ขนมวง ข้าวต้มหัวหงอก มักทำกันในเทศกาลสำคัญ เช่นเข้าพรรษา สงกรานต์

วุ้นเชื่อม

ภาคอีสาน

    เป็นขนมที่ทำกันง่ายๆ ไม่พิถีพิถันมากเหมือนขนมภาคอื่น ขนมพื้นบ้านอีสานได้แก่ ข้าวจี่  

หรือมะขามบ่ายข้าว 

ขนมเม็ดขนุน

ภาคใต้

  ชาวใต้มีความเชื่อในเทศกาลวันสารท เดือนสิบ จะทำบุญด้วยขนมที่มีเฉพาะในท้องถิ่นภาคใต้เท่านั้น เช่น ขนมลา ขนมพอง ข้าวต้มห่อด้วยใบกะพ้อ ขนมบ้าหรือขนมลูกสะบ้า ขนมดีซำหรือเมซำ ขนมเจาะหูหรือเจาะรู ขนมไข่ปลา ขนมแดง

ขนมไทยหายากหรือแถบจะไม่มีแล้ว

ขนมเสน่ห์จันทร์

     เป็นขนมมงคลในงานแต่ง โดยเฉพาะพิธีแห่งขันหมาก  ตัวขนมมีลักษณะคล้ายลูกจันทน์ ใช้เฉพาะไข่แดง หัวกะทิ น้ำตาลทราย และแป้งสาลี กวนให้เข้ากันจนแห้ง นุ่ม และไม่ติดมือ สำคัญที่สุดคือ การใส่ลูกจันทน์คั่วป่นแล้วร่อนให้ละเอียดเข้าไปด้วย ส่วนขั้วจะชงกาแฟข้น ๆ ด้วยน้ำร้อนแล้วผสมกับแป้งที่กวนไว้ให้เป็นสีน้ำตาล เมื่อรับประทานจะให้ความรู้สึกหอมเหมือนลูกจันทน์

ขนมบุหลันดันเมฆ

       ลักษณะของขนมจะคล้ายขนมน้ำดอกไม้ เป็นขนมชาววังคิดประดิษฐ์ขึ้นให้มีสีสันอุปมาอุปไมยเลียนแบบเพลงไทย ‘บุหลันลอยเลื่อน’ ซึ่งเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 มี 2 ส่วน คือ ส่วนตัวขนม ทำจากแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำดอกอัญชัน น้ำตาลทราย หยอดลงบนถ้วยตะไล เมื่อนำไปนึ่งตรงกลางจะบุ๋มลงไป ส่วนตัวหน้าขนม ประกอบด้วย ไข่ กะทิ น้ำตาลมะพร้าว และนำไปนึ่งต่อจนสุก

ขนมมหันตรา

        หรือเรียกอีกชื่อว่า "ขนมฝอย" เป็นขนมโบราณ ที่ใช้ในงานหมั้น ซึ่งแสดงถึงการตีตราจองว่าหญิงนั้นมีคู่หมั้นแล้ว ทำจากถั่วเขียวเลาะเปลือก ที่นำมากวนกับน้ำตาลทราย แล้ว ปั้นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ กดตรงกลางให้บุ๋มแล้วมาห่อด้วยไข่ที่ทำเป็นตาราง เป็นขนมอีกชนิดหนึ่งที่มีหน้าตาน่ารับประทาน

วีดีโอบรรยายกาศและการสัมภาษณ์

คุณกรชกร เป็นนักโภคชนาการ

สถานที่สัมภาษณ์ ห้องแล็ปตรวจสอบอาหารและเครื่องบริโภค
วันที่ 7 มกราคม 2557

ห้องควบคุมอาหาร

ร.พ.วิภาวดี

คุณองุ่น เป็นเจ้าของร้านขายขนมไทย

สถานที่สัมภาษณ์ เกาะเกร็ด วันที่ 6 มกราคม 2557

(ร้านพี่องุ่น)

This work is licensed under a Creative Commons Attribution 4.0 International License.